การแข่งขันฟุตบอลของลีกใหญ่ในยุโรปประจำฤดูกาล 2018-2019 ก็ทำการแข่งขันฟาดแข้งกันมาได้ราว ๆ 7-9 นัดแล้ว ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้ แต่อย่างน้อย ๆ ก็พอเห็นลางๆ แล้วว่า
ทีมไหนมีแววไปได้สวยและทีมไหนน่าเป็นห่วง ขณะเดียวกันในแต่ละลีกก็มีนักเตะที่ทำผลงานทะลุขึ้นมาได้อย่างโดดเด่นด้วย ทั้งนักเตะดาวรุ่ง นักเตะที่ย้ายทีมไปฟาดแข้งกับสโมสรใหม่
แต่ก็มีนักเตะรุ่นเก่า ๆ ที่ยังทำผลงานไม่ออกหรือทำไม่ได้ดีนัก สำหรับความเคลื่อนไหวของลีกดัง 5 ลีกนั้นแต่ละลีกและแต่ละทีมเป็นอย่างไรกันบ้างมาดูสถานการณ์กันได้เลย
– พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ)
จากสถานการณ์ตอนนี้ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าหากไม่นับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว บรรดาทีมใหญ่ ๆ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ถือว่าทำผลงานได้ดีทีเดียว และเกาะกันอยู่ในโซนหัวตารางกันแบบพร้อมหน้าโดยเฉพาะในรายของ “ไอ้ปืนใหญ่” นั้น ถือว่าร้อนแรงสุด\ๆ กับการที่โกยชัยชนะในลีกมา 6 นัดรวด
ส่วน “ปีศาจแดง” ที่มีผลงานขัดใจแฟนบอลอยู่ไม่น้อยในฤดูกาลนี้ แต่อย่างไรก็ตามชัยชนะแบบพลิกนรกเหนือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นกำลังใจที่ดี
ทว่าเสียดายที่มีเกมทีมชาติเข้ามาขัดจังหวะพอดี ส่วนทีมที่ทำผลงานน่าผิดหวังคงต้องมองไปที่ นิวคาสเซิ่ล เป็นทีมแรกเลย เพราะจริงๆ “สาลิกาดง” น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ลงเตะไปแล้ว 8 นัด
ยังไม่ชนะใครเลย ส่วนทีมบ๊วยอย่าง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ก็ถือว่าตามสภาพอย่างที่มองกันไว้ในตอนแรก
– ลา ลีกา (สเปน)
แม้ในระยะยาวไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ แต่บอกได้เลยว่า ลา ลีกา ซีซั่นนี้ การแข่งขันกลับสูสีมากกว่าที่คิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสองขาใหญ่ประจำลีกอย่าง บาร์เซโลน่า (อันดับ 2) และ เรอัล มาดริด (อันดับ 4)
ควงกันฟอร์มแกว่งตั้งแต่หัววัน กลายเป็น เซบีย่า ที่เซอร์ไพรส์ขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงหลังจบนัดที่ 8 ซึ่งก็ต้องขอบคุณความร้อนแรงของคู่หัวหอกอย่าง อันเดร ซิลวา และ วิสซาม เบน เยดแดร์ สำหรับทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง
ก็คงมองไปที่ทีมอย่าง บาเลนเซีย (อันดับ14), บียาร์เรอัล (อันดับ 16) และ แอธเลติก บิลเบา (อันดับ 17) ที่กลับไปโผล่อยู่โซนล่าง ๆ ของตารางคะแนน โดยเฉพาะ “ไอ้ค้างคาว” ที่ซีซั่นก่อนจบที่อันดับ 4 กลายเป็นทีมจอมเสมอ (6 นัด)
และเพิ่งเก็บชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้ฟอร์มของ บาร์เซโลน่า ยังไม่คงเส้นคงวา และไม่ชนะใครในลีก 4 นัดหลังสุด แต่ เมสซี่กลับยังมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
และยังคงเป็นคนที่แบกทีมเอาไว้ได้ อย่างในเกมล่าสุดก็เป็นคนทำประตูตีเสมอ บาเลนเซีย 1-1 ซึ่งจาก 8 นัดตอนนี้ เมสซี่ ทำไปแล้ว 6 ประตู กับ 4 แอสซิสต์
– ลีก เอิง (ฝรั่งเศส)
ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายใน ลีก เอิง เพราะตอนนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บินสูงเหลือเกินในตำแหน่งจ่าฝูง ด้วยการมี 27 แต้มเต็ม จาก 9 นัด พร้อมทิ้งอันดับสองอย่าง ลีลล์ ไปไกลถึง 8 แต้ม และมีแววที่จะนำยาว
จนเข้าป้ายคว้าแชมป์เลยทีเดียว ขณะที่ โอลิมปิก มาร์กเซย กับ โอลิมปิก ลียง ก็ถือว่ามีผลงานใช้ได้กับการรั้งที่ 3 และ 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่อย่าง อาแอส โมนาโก ที่เป็นแชมป์เมื่อสองซีซั่นก่อน
กลับฟอร์มตกอย่างน่าตกใจ โดยผ่านไป 9 เกม พวกเขาเพิ่งเก็บชัยชนะได้แค่ครั้งเดียวซึ่งนั่นก็คือ เกมเปิดซีซั่น จนตอนนี้จมอยู่ในโซนตกชั้นที่อันดับ 18 และมีแนวโน้มว่า เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม น่าจะถูกเด้งพ้นเก้าอี้กุนซือในเร็วๆ นี้
แม้เพิ่งพ้นโทษแบน 3 เกมมาหมาด ๆ แต่พูดได้เลยว่า เอ็มบัปเป้ เป็นผู้ล่นที่โดดเด่นสุดในเวที ลีก เอิง ชั่วโมงนี้ และดูเหมือนว่าฝีเท้าของเขาจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แบบไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะเกมล่าสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ เปแอสเช
เปิดบ้านยำ ลียง 5-0 นั้น เจ้าตัวเหมากระทุ้งคนเดียว 4 ตุง ภายในระยะเวลาแค่ 13 นาที จนตอนนี้ เอ็มบัปเป้ กระโดดขึ้นรั้งตำแหน่งดาวซัลโว ลีก เอิง ที่จำนวน 8 ประตู เท่ากับ เนย์มาร์ เพื่อนร่วมทีม และถ้านับรวมทุกรายการ
แข้งตัวจี๊ดทีมชาติฝรั่งเศสวัย 19 ปีคนนี้ กดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงเตะ 7 นัด ถือเป็นปีทองของเขาอย่างแท้จริง
– กัลโช่ เซเรีย อา (อิตาลี)
ยอดเยี่ยมสมราคาทีมเต็งแชมป์สำหรับ ยูเวนตุส ที่ครองตำแหน่งจ่าฝูงด้วยสถิติชนะรวดทั้ง 8 นัด พร้อมโกย 24 แต้มเต็ม ขณะที่ทีมใหญ่ ๆ อย่าง นาโปลี, อินเตอร์ มิลาน, ลาซิโอ และ โรม่า ก็ตาม ๆ กันมา แต่ที่ขอชื่นชมเป็นพิเศษคือ
“งูใหญ่” ที่ระยะหลังมีผลงานดีมาก เก็บชัยชนะรวดใน 4 นัดหลังสุด ทั้งที่ออกสตาร์ตแบบกระท่อนกระแท่น ขณะที่อดีตยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลาน ถือว่าน่าผิดหวังนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายมากกับการรั้งอันดับ 10 มี 12 แต้ม จาก 7 นัด
ส่วนสามทีมโซนตกชั้นอย่าง เอ็มโปลี (อันดับ 18), โฟรซิโนเน่ (อันดับ 19) และ คิเอโว่ (อันดับ 20) ก็ถือว่าไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร
– บุนเดสลีกา (เยอรมัน)
ยอดเยี่ยมจริง ๆ สำหรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ออกสตาร์ต 7 นัดแรกฤดูกาลนี้ ด้วยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูง (17 แต้ม) และถือเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร ซึ่งก็ต้องชื่นชมแนวรุกของทีมที่โหดมาก ๆ โดยเฉพาะหลายๆ เกมหลัง
พวกเขาทำประตูได้อย่างเต่อเนื่อง ขณะที่นักเตะดาวดังอย่าง มาร์โค รอยส์ และ มาริโอ เกิทเซ่ ก็กลับมาเล่นได้ท็อปฟอร์มอีกครั้ง ส่วน ปาโก้ อัลกาเซร์ หัวหอกที่ยืมมาจาก บาร์ซโลน่า ก็กดไปแล้ว 6 ประตู
รั้งตำแหน่งดาวซัลโวของลีกขณะนี้ หากมองหาทีมที่มีผลงานน่าผิดหวังตอนนี้ คงหนีไม่พ้นทีมเต็งแชมป์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่ฟอร์มหลุดอย่างน่าใจหายในระยะหลัง ทั้งที่ออกสตาร์ต 4 เกมแรกแบบซิวชัยรวด
ทว่า 3 เกมหลังกลับชนะใครไม่เป็น แถมแพ้ไปถึง 2 จนตอนนี้อันดับรูดลงไปอยู่ที่ 6 ตามหลัง ดอร์ทมุนด์ 4 แต้ม อีกทีมที่น่าผิดหวังคือ ชาลเก้ ที่ออกสตาร์ตแบบแพ้รวด 5 นัด แต่ยังดีที่ 2 เกมล่าสุดเก็บชัยได้หมด จ
นทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้น พร้อมดีดตัวจากโซนตกชั้นขึ้นมาอยู่ที่ 15