เอฟเวอร์ตัน (Everton) เป็นทีมวิกฤตล่าสุดที่แสวงหาการรักษาอาการป่วยจากมือหมอ “หมอ ท็อตแนม” และผู้จัดการทีม อันเก้ ปอสเตโคกลู (Ange Postecoglou) และกลับออกมาพร้อมความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เดวิด มอยส์ (David Moyes) เป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดเมื่อ เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยชนะครั้งแรกนับตั้งแต่เขากลับมาเป็นผู้จัดการทีมด้วยการเอาชนะ 3-2 แต่ตำแหน่งของ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีม สเปอร์ส จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดมากขึ้นหลังจากแพ้ 7 นัดใน 10 เกม พรีเมียร์ลีก (Premier League) หมอ ท็อตแนม เป็นคำเสียดสีล่าสุดที่มุ่งไปที่ สเปอร์ส ทฤษฎีคือถ้าคุณเป็นทีมหรือผู้จัดการทีมที่ต้องการยาแก้พิษอย่างเร่งด่วน ก็ไม่ต้องมองไกลไปกว่าคลินิกในลอนดอนเหนือ ในบรรดาผู้ป่วยที่พึงพอใจในฤดูกาลนี้มีทั้ง คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) และ อิปสวิช ทาวน์ (Ipswich Town) ทั้งสองทีมคว้าชัยชนะในลีกนัดแรกที่ต้องการอย่างมากกับทีมของ ปอสเตโคกลู เอฟเวอร์ตัน อาจมีผู้จัดการทีมใหม่ (หรือเก่า) อย่าง มอยส์ แต่พวกเขานำรายการอาการป่วยที่ยาวเหยียดเข้าสู่การแข่งขันวันอาทิตย์หลังจากเกมแรกของกุนซือชาวสก็อตวัย 61 ปีจบลงด้วยความพ่ายแพ้ในบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) นั่นทำให้ สเปอร์ส ซึ่งยอมรับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เพราะการบาดเจ็บ เป็นคู่ต่อสู้ในอุดมคติ
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถทำประตูได้ใน 9 จาก 11 เกมล่าสุด
ใน พรีเมียร์ลีก ทำได้เพียง 5 ประตูในช่วงเวลานั้น รวมถึงประตูทีมตัวเองสองลูกจาก เครก ดอว์สัน (Craig Dawson) กองหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (Wolverhampton Wanderers) พวกเขาทำประตูได้เพียง 15 ประตูใน 20 เกมลีกก่อนหน้านี้ในฤดูกาลนี้ ยิงเข้ากรอบเพียง 66 ครั้งจากความพยายาม 226 ครั้ง สำคัญที่สุดในความยากลำบากนั้นคือกองหน้า โดมินิก คาลเวิร์ต-เลวิน (Dominic Calvert-Lewin) ซึ่งไม่ได้ทำประตูในลีกตั้งแต่พ่าย แอสตัน วิลล่า 3-2 เมื่อวันที่ 14 กันยายน – ช่วงไร้สกอร์ของเขายืดเยื้อเป็น 16 เกมเมื่อเขาดูขาดความมั่นใจหลังพลาดโอกาสดีสามครั้งกับคู่แข่งเดียวกันเมื่อวันพุธ สเปอร์ส? ไม่มีปัญหา เขากลับมายิงได้ในนาทีที่ 13 ด้วยการจบสกอร์ที่เฉียบขาด หลังจากหลอก อาร์ชี เกรย์ (Archie Gray) สองครั้งก่อนทำให้ผู้รักษาประตู อันโตนิน คินสกี้ (Antonin Kinsky) หลงทิศ นั่นเป็นประตูแรกในลีกของ คาลเวิร์ต-เลวิน ในรอบ 1,288 นาที
วิกฤตการณ์ของ สเปอร์ การพ่ายแพ้ที่น่าผิดหวังต่อ เอฟเวอร์ตัน
ในการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (Premier League) นัดล่าสุด เอฟเวอร์ตัน ได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจด้วยการเอาชนะ สเปอร์ส ในเกมที่สนาม กูดิสัน พาร์ค (Goodison Park) ด้วยการแสดงที่เหนือชั้นโดยเฉพาะในครึ่งแรกของเกม การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การนำของ เดวิด มอยส์ (David Moyes) ทำให้ทีมที่เคยเล่นได้อย่างน่าเบื่อในฤดูกาลนี้ กลายเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพและน่ากลัว เว็บแทงบอลยูโร พวกเขาสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้มากถึง 12 ครั้ง โดย 6 ครั้งเป็นการยิงเข้ากรอบ ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าประทับใจ ความสำเร็จของ เอฟเวอร์ตัน ในเกมนี้ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลมาจากแผนการเล่นที่วางไว้อย่างรัดกุม การกดดันคู่ต่อสู้ตั้งแต่ต้นเกม เว็บแทงบอลยูโร และการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของ สเปอร์ส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำ 3-0 ในครึ่งแรกสะท้อนให้เห็นถึงความเหนือชั้นของทีมเจ้าบ้านอย่างชัดเจน แม้ว่า สเปอร์ส จะพยายามกลับมาในช่วงท้ายเกมด้วยประตูจาก เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ ริชาร์ลิซอน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกู้สถานการณ์ ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ส่งผลให้ สเปอร์ส ตกไปอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง โดยมีคะแนนนำ เอฟเวอร์ตัน เพียง 4 คะแนน และ เอฟเวอร์ตัน ยังมีเกมในมือเหลืออีกหนึ่งนัด สถานการณ์ของ อันเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือของ สเปอร์ส กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ แม้ว่าทีมจะประสบปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นคนสำคัญหลายราย ทั้ง โดมินิค โซลันเก้, เบรนแนน จอห์นสัน และ อีฟส์ บิซซูม่า แต่การแสดงที่ย่ำแย่โดยเฉพาะในครึ่งแรกของเกมนี้ก็ไม่สามารถหาข้อแก้ตัวใดๆ ได้ ความผิดพลาดในเกมรับ การขาดความเฉียบคมในเกมรุก และการขาดภาวะผู้นำในสนาม ล้วนเป็นปัญหาที่ ปอสเตโคกลู ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน แฟนบอล สเปอร์ส ที่เดินทางมาเชียร์ทีมแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนกับผลงานในครึ่งแรก
การพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อตำแหน่งในตาราง แต่ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทีมและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อ ปอสเตโคกลู ในฐานะผู้จัดการทีม การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงจำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อพลิกสถานการณ์ของทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
